เสน่ห์ของ
"อาหารไทย" เกิดจากความพิถีพิถันในขั้นตอนและวิธีการปรุง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มีเอกลักษณ์ ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น หลายยุคหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็น ต้ม, ตุ๋น, นึ่ง, อ่อม, ผัด, ทอด, เจียว, จี่, หมก, อบ และอีกมากมาย
ต้ม - เป็นการนำอาหารใส่หม้อพร้อมน้ำ ตั้งไฟให้เดือด เพื่อทำอาหารให้สุก
หุง - เอาอาหารใส่หม้อพร้อมน้ำปริมาณมาก ตั้งไฟให้เดือดจวนสุก แล้วจึงรินน้ำออก ตั้งไฟต่อหรือกะน้ำให้พอดี เมื่ออาหารสุกน้ำก็แห้งพอดี
ลวก - ต้มน้ำให้เดือดก่อน แล้วใส่อาหารลงไป พอสุกแล้วเอาอาหารขึ้นหรือรินน้ำออก
นึ่ง - ใส่น้ำใสลังถึงตั้งไฟ ใส่อาหารในซึ้งด้านบน ปิดฝาไว้ไม่ให้ไอน้ำออก อาหารจะสุกนุ่ม
ตุ๋น - เป็นการทำให้สุกจนเปื่อยนุ่ม โดยใส่อาหารใสภาชนะใบหนึ่ง แล้วตั้งบนภาชนะที่มีน้ำเดือด
รวน - ใส่น้ำมันหรือน้ำเพียงเล็กน้อยในกระทะ แล้วนำเนื้อชิ้นบางลงคนจนกระทั่งสุก
ทอด - ทำให้สุกโดยน้ำมันปริมาณมาก ใส่อาหารลงทอดจนสุกเหลือง หรือกรอบ
จี่ - ทำให้สุกโดยน้ำมัน ใช้แต่น้อยทาจนทั่ว แล้วนำอาหารนาบจนสุก
เจียว - ทำอาหารให้เป็นฝอย หรือละเอียดให้สุดด้วยน้ำมัน โดยใส่น้ำมันในกระทะ นำอาหารลงคนจนเหลือง
ผัด - ใส่อาหารลงในน้ำมัน หรือกระทิปริมาณน้อยๆ คนให้ทั่วจนสุก
ปิ้ง - เป็นการทำให้สุกโดยใช้ไฟไม่แรงนัก พออาหารมีผิวเกรียม หรือกรอบก็ใช้ได้
ย่าง - วางอาหารเหนือไฟอ่อนๆ จนสุกตลอดถึงข้างใน อาหารจะแห้งและอ่อนนุ่ม จะใช้เวลานาน
เผา - ใช้ไฟแรง เผาจนผิวนอกไหม้ แต่ภายในสุกนุ่ม
หลาม - ใส่อาหารในกระบอกไม้ไผ่สด ใช้ใบตองปิด เผาจนอาหารข้างในสุก
ลน - ใช้ไฟผ่านอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงกับไหม้ไฟ เพียงต้องการให้อ่อนนุ่มลง เช่น ใบตอง
คั่ว - ใส่อาหารในกระทะแห้ง คนจนสุกแห้ง กรอบ หรือเกรียม เช่น ข้าวคั่ว
กลอก - ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ เทอาหารเหลวให้สุกเป็นแผ่นบาง โดยจับกระทะ
หมก - ห่ออาหารในใบตองหนาๆ เอาไปกลบในขี้เถ้า รอจนอาหารสุก
อ่อม - ต้มอาหารเดือด แล้วราไฟให้อ่อน เคี่ยวจนอาหารเปื่อย
อบ - ใส่อาหารในตู้ควบคุมความร้อน ใช้ความร้อนทำให้อาหารสุก